![ar-ma-2016-%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%b2]()
หยิบอาม่ามาดูด้วยหัวโล่งๆ เลยครับ คือไม่คาดหวังอะไรอยู่แล้วเพราะหนังโดนถล่มตั้งแต่เข้าโรง และเอาเข้าจริงพอดูตัวอย่างก็ไม่คิดว่าหนังจะน่าสนใจอะไรมากมาย
ข้อดีอย่างหนึ่งของการเจอรีวิวบ่นหนังเรื่องนี้มามากๆ คือทำให้เราลดความคาดหวังลงไปอีกเยอะ และพอจะจับทางได้ว่าหนังจะมาในทางไหน เลยทำให้การดูหนังเรื่องนี้ของผมถือว่าเพลินในระดับหนึ่ง แต่ก็สารภาพว่ามี Fast Forward เป็นพักๆ เหมือนกัน (555)
พล็อตว่าด้วยอาม่าที่จู่ๆ ก็เสียชีวิตไป บรรดาลูกหลานก็กลับมาเพื่อฟังพินัยกรรม แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดตามมาเป็นพักๆ ซึ่งผมก็คงไม่เล่าอะไรมากน่ะนะครับ เพราะจริงๆ หนังเทน้ำหนักไปที่ความตลกมากกว่าจะเทไปที่เนื้อเรื่อง
หลังดูจนจบแล้ว จริงๆ ผมว่าหนังมีแก่นเรื่องที่ดีนะ (ยอมรับว่าแอบเดาได้ตั้งแต่ตอนดูตัวอย่างแล้วว่าต้องมาแบบนี้) เพียงแต่การเดินเรื่องของหนังค่อนข้างเปะปะ ซ้ายทีขวาทีจนแก่นเรื่องหลักที่ผมว่าดีนั้นไม่ได้รับการดูแลสักเท่าไร
![a002]()
ช่วงต้นหนังมาในแนวกึ่งๆ ลึกลับซ่อนปมผสมน่ากลัวเข้าไปหน่อยๆ จริงๆ ก็ไม่เลวนะครับ คือมันดูมีอะไรอยู่เหมือนกัน แต่พอหนังมาถึงกลางเรื่องก็เหมือนจะเปลี่ยนโทนไปออกแนวบ้านผีปอบ คือวิ่งหนีหลบผีกันเป็นหลัก
ช่วงหลบผีก็เน้นฮากันไปครับ ถ้าดูแบบไม่คิดมากมันก็เรื่อยๆ นะ แม้มุกจะค่อนข้างซ้ำทาง แต่หากใครชอบหนังตลกประมาณนี้ก็อาจจะยังพอกล้อมแกล้มขำไปกับมุกหนีผีแบบคลาสสิกของบ้านเราในระดับหนึ่ง
แต่พอถึงช่วงกลางค่อนไปตอนท้ายนี่ หนังเหมือนได้รับการยืดน่ะครับ ประมาณว่าเนื้อเรื่องความวุ่นวายในตระกูลมันไม่มากพอที่จะให้หนังยาวถึงชั่วโมงครึ่งได้ เลยมีการใส่มุกนอกสถานที่ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาเลยลงมา (ฉากตำรวจตั้งด่านน่ะครับ)
ฉากที่ว่านี่กินเวลาไม่น้อย คือดูก็รู้ว่าออกแนวยืดเวลาน่ะครับ มีดาราตลกรับเชิญเพียบ ซึ่งผมนั้นชอบมุกสไตล์นี้นะ แต่แค่รู้สึกว่ามันดูจะผิดที่ไปนิดหนึ่ง คือมันไม่เหมือนเรื่อง “โป๊ะแตก” น่ะครับที่หนังเน้นฮาตั้งแต่ต้น ไม่ได้มีพล็อตชัดเจน แต่เน้นมุกชนมุก ดังนั้นแม้บางช่วงบางตอนมันออกทะเล แต่หากมันขำก็พอรับได้
![a003]()
แต่กับเรื่องนี้ จริงๆ มันมีพล็อตให้เล่น มีแก่นให้เล่า มีเนื้อเรื่องให้สานต่อ จริงๆ หากจะยืดเวลา ก็ยืดด้วยการเพิ่มเนื้อหา เพิ่มความหนักแน่นก็ได้ หรือถ้าจะเล่นมุกก็เล่นโดยให้ยังอยู่ในเนื้อหาก็ได้ ก็เลยรู้สึกเสียดายนิดๆ น่ะครับที่หนังดันนอกเรื่องไปนิดตอนช่วงกลางค่อนไปทางท้าย
พอตอนจบหนังก็สรุป ซึ่งประเด็นที่สรุปก็อย่างที่บอกครับว่าไม่เกินคาดเดา แต่จริงๆ มันมีความหมายดีๆ อยู่ภายใน ทว่าด้วยความที่ช่วงก่อนหน้าดันไปเน้นมุกฮาที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องในครอบครัวของอาม่าเลย อารมณ์มันเลยขาดห้วงไป แทนที่จะกินใจ ก็เลยไม่กินใจเท่าที่ควร
คือหนังเหมาะดูแบบไม่คิดมากจริงๆ น่ะครับ ถ้าดูเอาเรื่องก็อาจผิดหวังนะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมโชคดีที่อ่านรีวิวมาจนนิ่ง เลยดูด้วยความปล่อยวางมากขึ้นอีกนิด แต่ขนาดวางแล้วก็ยังเสียดายครับที่หนังยังเขย่าหลายๆ อย่างได้ไม่เข้าที่
![a004]()
ระหว่างดูนี่มันก็ทำให้คิดถึงหนังอย่างพวก Shaun of the Dead ที่จริงๆ มันสยองนะ แต่หนังสามารถยัดความฮาลงไปได้แบบพอเหมาะพอดี เรื่องราวดูไม่เลอะเทอะ แต่คาแรคเตอร์ตัวละครนี่โคตรเฟอะฟะเลย ทว่ามันไปกันได้ ก็น่าศึกษาเหมือนกันครับว่าอะไรทำให้หนังเรื่องนั้นออกมาเป็นแบบนั้นได้
สำหรับเรื่องนี้ เอาจริงๆ ผมดูเพลินๆ นะ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามี Fast Forward เหมือนกัน แต่ช่วงตำรวจตั้งด่านผมไม่ Fast นะ คือดูก็ขำดี แต่มันออกแนวเหมือน “เปลี่ยนช่อง” น่ะครับ ประมาณว่าดูช่องนี้เบื่อแล้ว (เนื้อเรื่องหลัก) เลยขอเปลี่ยนไปดูอีกช่อง (ฉากตำรวจตั้งด่าน)
สรุปคือ… ผมว่าผมเอาโป๊ะแตกมาดูอีกรอบดีกว่า คือไหนๆ จะฮาก็ฮาเต็มๆ ไปเลยแล้วกัน
คะแนนความชอบ 5/10
รีวิวโดย หมื่นทิพ
The post รีวิว อาม่า (2016) appeared first on .